วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

กรรมเหนือหมอดู


กรรมเหนือหมอดู
คอลัมน์ รื่นร่มรมเยศ
โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก


ทำไมการพยากรณ์อดีตจึงแม่น พยากรณ์อนาคตไม่แม่น
ตอบ เพราะชีวิตคนมิได้ขึ้นอยู่กับโหราศาสตร์เป็นเงื่อนไขอย่างเดียว มันย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขปัจจัยอีกมากมาย อดีตนั้น "นิ่ง" แล้ว ไม่มีเงื่อนไขอะไรมาผลักดันให้เป็นอื่นได้ เพราะฉะนั้น การทำนายทายทักจึงมักจะตรง แต่ปัจจุบันและอนาคต มันยังเคลื่อนไหวเพราะเหตุปัจจัยอีกหลายอย่าง ยังไม่นิ่ง
เงื่อนไข ที่สำคัญที่สุดคือ "กรรม" (การกระทำ) ของคนๆ นั้นอง เขาทำทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดีคละกันไป สิ่งเหล่านี้แหละมีแนวโน้มจะให้ผลในอนาคต ไม่ว่าดี หรือไม่ดี
พูด อีกนัยหนึ่ง เราเป็นผู้กำหนดอนาคตเราเอง ถ้าต้องการให้ชีวิตเป็นไปอย่างใด ก็ต้องสร้างเงื่อนไขที่ดีๆ ไว้ให้มาก แล้วอนาคตจะไปดีเอง ตรงข้ามถ้าสร้างแต่เงื่อนไขไม่ดี อนาคตก็เป็นไปตามนั้น

คนเราถ้าไม่ขวนขวายพยายาม
ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม
ก็ตกอยู่ใต้อิทธิพลของฟ้าดิน
แต่กรรมเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดอย่างแท้จริง
นั่นคือเราต้องสร้างอนาคตของเราเอง
คนที่พยายามพึ่งตัวเองด้วยการกระทำแต่ความดีถึงที่สุดแล้ว
ย่อมอยู่เหนือโชคชะตา

ถ้าใครคิดว่าชีวิตถูกลิขิตมาอย่างใดก็ย่อมเป็นอย่างนั้น แก้ไขไม่ได้เลย
ผู้นั้นถึงจะเป็นคนคงแก่เรียนเพียงใด
ก็นับว่าโง่อยู่นั้นเอง

เราคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า การเด็ดดอกไม้เพียงดอกเดียว สะเทือนไปถึงดวงดาว
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เราตัดสินใจทำกรรมดีกรรมชั่วในตอนนี้ มันสะเทือนไปถึงปัจจุบันและอนาคตของเราด้วย
ด้วยเหตุนี้ หมอดูดังๆจำนวนมากมักทำนายเหตุการณ์ต่างๆผิดพลาด
เพราะเขารู้แต่พรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดเดิม พรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดใหม่เขาไม่รู้
แม้แต่พระอริยะเจ้า ท่านยังทำนายพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดใหม่ไม่ได้เลย ท่านรู้เฉพาะพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดเดิมเท่านั้น

1. หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
หลวงพ่อจรัญทำนายว่า.....อาตมาจะมรณภาพวันที่ 14 ตุลาคม 2521 เวลาเที่ยง 12.45 น.ด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำคอหักตาย
นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดเดิมของท่าน
เมื่อถึงเวลานั้น หลวงพ่อจรัญท่านก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ คอหักจริงๆ แต่ท่านไม่ตาย ด้วยเหตุที่ หลวงพ่อจรัญได้สำนึกบาปที่ฆ่าหักคอไก่จำนวนมาก และแผ่เมตตาให้ไก่เหล่านั้น ไก่เหล่านั้นเลยให้อภัย ท่านจึงแค่คอหัก แต่ไม่ตาย
นี่คือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดใหม่ของท่าน
วิเคราะห์
- หลวงพ่อจรัญมองเห็นกรรมเก่าที่จะให้ผล(ตามพรหมลิขิต/กฎแห่งกรรม)
- หลวงพ่อจรัญมองไม่เห็นกรรมใหม่ที่จะให้ผล ท่านทำกรรมใหม่ คือ สำนึกบาปที่ฆ่าหักคอไก่จำนวนมาก และแผ่เมตตาให้ไก่เหล่านั้น
- กรรมใหม่ส่งผลเปลี่ยนพรหมลิขิต กฎแห่งกรรมในอดีต จึงให้ผลไม่ได้เต็มกำลัง เพราะโดนวิบากกรรมดีในชาตินี้ช่วยไว้

2. พระสารีบุตร
ในครั้งพุทธกาล พระสารีบุตร และภิกษุอื่นๆ ต่างไม่ได้ให้พรเณรบวชใหม่คนหนึ่ง ให้มีอายุยืน เพราะวิบากกรรมของเขาต้องตาย ถึงฆาตแน่ พระสารีบุตรได้เล็งเห็นว่า เณรผู้นี้จะมรณะในอีก 7 วัน
ท่านจึงอนุญาตให้เณรกลับไปเยี่ยมบ้าน เพื่อโปรดบิดามารดา และญาติโยมทางบ้านเป็นครั้งสุดท้าย
นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดเดิมของเณรบวชใหม่
เมื่อเพลาผ่านไปเจ็ดวัน เณรได้กลับมายังอารามเหมือนเดิม พระสารีบุตรเองแปลกใจว่า เพราะเหตุใดเณรคนนั้นไม่ตาย ท่านจึงได้สอบถามเณรว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างทางไปและกลับ เณรได้แถลงไขว่า ระหว่างทางที่ไปนั้น ได้พบปลาจำนวนหนึ่งตกคลักในหนองน้ำที่ใกล้แห้ง จึงได้เอาจีวรช้อนขึ้นมาไปปล่อยในแหล่งน้ำที่ใกล้ๆ
ด้วยญาณแห่งพระสารีบุตร ท่านก็ทราบได้ว่า ปลาเหล่านั้น คืออดีตเจ้ากรรมนายเวรของเณรผู้นั้นเอง และเมื่อเณรได้นำปลาไปปล่อยในแหล่งน้ำ เท่ากับว่าได้ทำบุญต่ออายุให้กับตัวเอง และเจ้ากรรมนายเวรนั้น จึงได้อโหสิกรรมให้เณร
นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดใหม่ของเณรบวชใหม่
วิเคราะห์
- พระสารีบุตรมองเห็นกรรมเก่า(พรหมลิขิต/แผนที่ชีวิต)ที่จะให้ผลให้เณรคนหนึ่งตาย
- พระสารีบุตรมองไม่เห็นกรรมใหม่ ที่จะให้ผลให้เณรคนนั้นไม่ตาย ซึ่งเป็นตอนที่เณรคนนั้นเดินทางกลับบ้าน เณรไปปล่อยปลา ซึ่งเป็นการทำกรรมใหม่ ทำให้กรรมเก่าของเณรไม่ส่งผล

มีแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ที่สามารถเห็นอนาคตที่ไม่เปลี่ยนแปลง

สรุป
กฎแห่งกรรมก็คือพรหมลิขิตนั่นเอง
แต่กฎแห่งกรรมบอกวิธีการแก้พรหมลิขิต
หรือ แก้แผนที่กฎแห่งกรรมในอดีตที่ส่งผลถึงปัจจุบันและอนาคตเอาไว้ด้วย
ถ้าเราทำตามพรหมลิขิต โดยไม่แก้ไขอะไรให้ดีขึ้น ก็เท่ากับเราไม่เข้าใจกฏแห่งกรรมอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น