วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มารศาสนา (ไม๊)

พอดีเราเพิ่งไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดที่เราอาศัยอยู่
เราเคยไปบวชที่วัดนี้มาแล้วประมาณ 3 ครั้ง คือไปปีละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 วันอ่ะนะ
แล้วครั้งนี้เราก็ไปเหมือนเดิม

ครั้งแรกที่ไปบวช
แม่ชีที่เราไปอาศัยก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรหรอกนะ แต่ก็ต้องมีเงินทำบุญบ้าง อะไรบ้าง เราก็ให้ไม่ได้คิดมากอะไร

ครั้งที่สอง
แม่ชีบอกเราว่า ต้องเอาข้าวหอมมะลิ 5 กิโล 1 ถุง และน้ำตราสิงห์ขวดใหญ่ 1 โหล ต่อ 1 คนนะ ค่าชุด ๆ ละ 100 บาท และต้องมีเงินใส่ซองทำบุญให้แม่ชีด้วยนะคะ แม่ชีจะพูดประมาณว่า "คนนั้นมาบวช 7 วัน ถวายเงินช่วย 1200 คนนั้นมาบวช 9 วัน 2500 และถ้าเกิดแม่ชีบอกว่าช่วยแม่ชีหน่อยได้ไม๊ เท่านั้น เท่านี้ อยากถามหน่อยว่าเพื่อน ๆ จะช่วยไม๊"

ครั้งที่สามนี่ก็เหมือนกัน แต่ครั้งนี้จะหนักกว่าครั้งก่อน ๆ หน่อยหนึ่ง
ตรงที่ว่า "ครั้งนี้แม่ชี ท่านทำอะไรไม่ปิดบังเลยนะคะ คุยโทรศัพท์กับพระ แล้วยังมาบอกเราอีกว่า
"แม่ชี กับ พระ รักกันไม่ผิด"

"เพราถ้าพระดี ๆ ก็ต้องอยากได้ เพราะอยากได้สามีที่เป็นคนดี และจะสึกออกไปช่วยกันทำมาหากิน"
แถมแม่ชีองค์นี้นะ ท่านเป็นโยมอุปัฐากย์ให้กับพระรูปนั้นด้วยนะคะ ซึ่งเท่าที่เรารู้จักกับท่านมานะ แม่ชีท่านนี้จะบวชตลอดชีวิต เพราะท่านเคยสึกแล้ว แต่ไม่สามารถอยู่ได้ ก็เลยต้องกลับมาบวชใหม่ ตอนนี้อายุก็ 70 กว่า แล้วนะ


คือ ในความคิดของเรา มันไม่ใช่นะ
เพราะแม่ชี ในความคิดของเรา "ต้องไม่พยายามไปหลงในรูป เสียง กลิ่น ของเพศบรรพชิตสิ ถ้ารู้สึกว่ามันไม่เหมาะก็ควรต้องหลีกออกมาให้ไกล ๆ ใช่ไม๊ แต่นี่ไม่ใช่เลย แม่ชีพยายามทำอาหารไปถวายพระเด็ก ๆ หน้าตาดี ๆ ทุกวัน (ตอนเช้า) แต่พระอาจารย์ที่มีอายุแล้ว ท่านไม่ถวาย

เออ

เห็นแล้วเราก็งงไปเหมือนกัน

เพราะสำหรับเรา แบบนี้เราเรียกว่า "มารศาสนา"
ท่านมาบวชเพื่ออะไรเหรอ
ท่านมาบวชชี เพราะว่า
"พอเวลามีคนมาบวชชีพราหมณ์ที่วัด ท่านก็เรียกเก็บเงินน่ะสิ
ที่สำคัญท่านปล่อย เงินกู้ด้วยนะ"

โอ้โห
แบบว่า
เห็นแล้วไม่อยากจะไปบวชเลยอ่ะ
แต่เราไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรหรอกนะ แค่อยากเก็บมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง
ใครเจอแบบเราบ้าง?
หรือเราเจอคนเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น