วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความดี


เคยคิดไม๊ว่า
"ชีวิตนี้ของเราจะได้สุขสบายเมื่อไหร่กัน"
"สิ่งที่เราทำอยู่ในทุกวันนี้มันถูกจริง ๆ เหรอ"
"รู้ไม๊ว่าการทำความดีมันยากมาก ๆ เลยนะ"
"เพราะสุดท้ายแล้วคุณจะแพ้ใจคุณเอง"

การทำความดีขึ้นอยู่กับจิตใจของคุณเป็นสำคัญที่สุดเลยแหล่ะ ขนาดว่าตัวแววเองที่คิดว่าตัวเองมั่นคงแล้ว และจะไม่หวั่นไหวต่อกิเลศหรือเครื่องเหนี่ยวนำจิตใจให้ตกต่ำลง แววเคยคิดไว้นะ ว่าแววจะไม่หวั่นไหวอีกต่อไปแล้ว แววจะเดินหน้าเต็มที่เพื่อที่จะทำความดีต่อไป แววพยายามสวดมนต์ให้ได้ทุกวัน แววทำได้ติดต่อกัน 21 วัน และสุดท้ายแววก็ล้มเลิก เพราะในระหว่างที่แววทำนั้น แววไม่มีเงินเลยจริง ๆ ไม่มีแม้แต่ลูกค้าจะมานวดที่บ้าน หรือไปที่ร้านของเพื่อนก็ไม่มีลูกค้าไปนวดเหมือนกัน แววคิดว่าถ้าในวันนี้แววเดินหน้าทำความดีเต็มที่ แต่แววไม่มีเงินมาซื้อนมให้ลูกกิน และไม่มีเงินมาซื้อกับข้าว ซื้อยาให้กับแม่ แววควรจะทำไม๊ แววอยากถามเพื่อน ๆ ว่า "ถ้าเพื่อน ๆ เป็นแวว เพื่อน ๆ จะทำยังไง"

แววไม่ได้ลำบากแบบนี้เป็นครั้งแรก และนี่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต แต่ทุกอย่างที่แววต้องประสบพบเจอในวันนี้ ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นมาจาก "ความประมาท" ขนาดแววเคยเจอเรื่องที่ร้าย ๆ มาหลายเรื่องแล้วนะในชีวิตที่เกิดมาจนถึงทุกวันนี้ แต่แววก็ยัง "พลาด" เพราะอะไร "เพื่อน ๆ รู้ไม๊?"

เพราะแววประมาท หลงอยู่ในความสุขสบาย คิดแต่ว่าสิ่งที่แววเจอมันคือความสุข และความสุขเหล่านี้จะยั่งยืนต่อไป เหมือนตอนก่อนที่แววจะหนีออกจากบ้านเมื่อ 8 ปีที่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว บ้านของแววไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว แววกลับมาที่บ้าน แต่เชื่อไม๊ว่าบ้านที่แววเคยเติบโตมา ได้ถูกขายออกไปแล้ว พี่น้องของแววทุกคนที่โตมาด้วยกัน แยกย้ายกันออกไปจากบ้าน ทุกคนไปเผชิญหน้ากับเวรกรรมในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่แววคิดว่ายังไงแววก็จะต้องรอด เพราะแววเป็นลูกของป๊านี่นา ป๊าคงไม่ทิ้งแววหรอก แต่แววลืมคิดไปนะว่า "วันนี้แววมีลูก แววมีสามีแล้ว แววไม่ใช่คน ๆ เดียวอีกแล้ว" ป๊าไม่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวของแววได้"

และแววก็ลืมตัว ลืมความทุกข์ ลืมความลำบาก ลืมความเศร้า ลืมอดีต ที่แววเคยเจอมา แววลืมหมดเลย เพราะแววมีความสุขยังไงล่ะ ความสุขที่จอมปลอม ความสุขที่หลอกให้เราพลั้งเผลอและประมาทในการดำรงชีวิต และแววก็เดินลงไปในหลุมของความประมาทเต็ม ๆ เลย

วันนี้แววขอทำความดีแค่พอประมาณ ไม่มากเกินไป ไม่บังคับจิตใจของเรามากเกินไป
แววคิดนะว่า "การทำความดี ควรเริ่มต้นที่จิตใจของเราก่อนดีกว่า ถึงแม้จิตใจของแววมันอยากจะร้องตะโกนเหลือเกินว่าอยากไปทำบุญมาก ๆ เลยนะ อยาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อยากแบบสุด ๆ เลยแหล่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่แววจะต้องทำบุญนะ ยังไงก็ต้องทำ ไม่มากก็น้อยแหล่ะ แต่ต้องทำ
แววเป็นแค่บุคคลธรรมดา แววไม่ได้มีบารมี แววไม่ได้มีญาณวิเศษ แววไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แล้วแววจะไปช่วยเหลือใครได้ล่ะ แววจะพยายามเพียรทำความดีได้อย่างไร ถ้าในวันนี้แววยังต้องประสบพบเจอกับเรื่องพวกนี้ แววต้องทำงาน หาเงิน มาซื้อนม ซื้อข้าว ให้ตัวแววเอง ให้ลูกและแม่ของแวว แล้วถ้าแววต้องเจอกับการไม่มีลูกค้ามานวดตลอด แววควรทำยังไงล่ะ
แววไม่มีเงินซื้อของเข้าบ้าน แววไม่มีเงินซื้อขนมให้ลูก ใครจะช่วยแววล่ะ
เพราะสิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่เจ้ากรรมนายเวรชอบที่สุด คือ เราท้อ ที่จะทำความดี
ใช่แล้วแหล่ะ วันนี้แววท้อแล้วกับการทำความดี แต่แววยังไม่ได้ถอยนะ เพียงแต่แววขอหยุดความดีไว้ในตำแหน่งนี้ไปสักพัก ก่อนที่แววจะเริ่มเดินหน้าพยายามอีกครั้ง แววขอยืนตรงนี้ให้มั่นคงก่อนนะ แววกลัว กลัวว่าพรุ่งนี้มันจะแย่กว่าวันนี้ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แววคงหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้จริง ๆ


แววอยากเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ หลายคนที่ทำความดีนะ อย่าท้อแท้ อย่าท้อถอย ถ้าเราล้มเราสามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้ แต่เราอาจจะต้องใช้เวลากับการลุกขึ้นยืนอีกครั้ง มันไม่ง่ายหรอก แต่แววเชื่อมั่นว่าทุกคนมีความดีในตัว เราสามารถลุกขึ้นได้แน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลา

แววก็กำลังใช้เวลาเหมือนกัน
พยายามด้วยกันนะ
เป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนนะ
ทุกวันนี้ ชีวิตของแววอุทิศให้กับคนสองคนนี้จริง เพื่อแม่ และเพื่อลูก คนที่รักแววมากที่สุดในชีวิต และไม่เคยทำร้ายแววเลย ความดีทุกอย่างที่แววจะได้รับจากการเผยแพร่บทความจากประสบการณ์จริง ๆ ของชีวิตแวว จากทุก ๆ ความดีที่แววได้ทำ แววขออุทิศให้กับ คุณกัลยาณี เบญจโศภิษฐ์ และเด็กชายณัชนันท์ แก้วสุทธา รวมไปถึงเจ้ากรรมนายเวรและบรรพบุรุษของบุคคลทั้งสองนี้ด้วย ขอท่านทั้งหลายมาร่วมอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้าด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น